Olivier

ข้อมูลสมาชิก – Olivier

เริ่มเป็นสมาชิก: May 17, 2016 13:06:59 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 39 รายการ , คำติ: 6 รายการ

ประวัติ Feedback

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุด-จ.นครปฐม/6741546


ยินดี ส่งออกบัตรรับรอง   และ   โอนเงินผ่านเว็บดีดีพระ   พุทธคุณเหนือ คำบรรยาย พิธีใหญ่ครับ   ไม่ผ่านการล้าง ไม่ผ่านการใช้พุทธคุณเหนือคำบรรยาย ศิษย์สายตรง ไม่ควรพลาด!! หายากๆ สร้างน้อยๆ พระดี พระสวย ไว้ใจผม พันธุ์ทิพย์ครับ โอนเร็ว ส่งไว ทันใจแน่นอนครับๆๆๆๆๆๆๆๆ ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ บริหารงานโดย พันธุ์ทิพย์ ครับ ชื่อนี้ ไม่มีผิดหวัง รายการวัดใจ มีเรื่อยๆ ฝาก คลิ๊ก !!  หลังชื่อด้วยนะครับ ประวัติ สิงห์เมตตามหาบารมี หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม พ.ศ.2546 มหาอำนาจ เจริญก้าวหน้า ยกฐานะ โชคลาภร่ำรวย ข้าราชการควรมีไว้บูชากันนะคะ           สุดยอดแห่งเครื่องรางเพื่อความเป็น ศุภมงคล มั่งคั่ง ร่ำรวย พร้อมด้วยอำนาจบารมี เป็นอีกหนึ่ง ในสุดยอดวิทยาคมที่หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาบรมครู หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ผ่านทางหลวงพ่อจ้อย วัดบางช้างเหนือ สิงห์หลวงพ่อพูลเด่นด้าน โชคลาภค้าขาย ร่ำรวย เจริญก้าวหน้า ยกฐานะ อยู่เย็นเป็นสุข มีเมตตามหานิยม คลาดแคล้วปลอดภัย หลวงพ่อพูล ท่านถือเคล็ดตามโบราณกาล ที่ว่าสิงห์นั้นเป็นเจ้าแห่งสัตว์ทั้งปวง จึงมีชื่อเรียกขานว่า 'ราชสีห์' มีตบะเข้มขลัง แม้แต่กษัตริย์ในโบราณยังเอา รูปราชสีห์เป็นตราประจำตำแหน่งสมุหนายกมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และต่อมาในรัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานให้เป็นตราประจำกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ปวงประชาราษฎร์ ในทางโหราศาสตร์นั้นก็เชื่อว่า พระอาทิตย์ เทพเจ้า ผู้บันดาลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ สว่างไสว มั่งคั่ง ก็เกิดจากการนำเอาราชสีห์ หรือสิงห์ 6 ตัว มาป่น ห่อด้วยผ้าแดง และประพรมด้วยน้ำอัมฤทธิ์จึงบังเกิดเป็นพระอาทิตย์ขึ้นโดยมีสิงห์เป็นพาหนะ หลวงพ่อพูล ท่านเรียนอ่านเขียนอักษรขอมและแพทย์แผนโบราณจาก "ปู่แย้ม ปิ่นทอง" ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่แท้ๆของท่าน และได้รับการถ่ายทอดวิชา คาถาอาคมจาก หลวงพ่อจ้อย วัดบางช้างเหนือ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงปู่กลั่น และ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ท่านเรียนเจริญสมาธิภาวนาและอักขระเลขยันต์จากหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จนจบทุกกระบวนวิชา ท่านจึงออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ต่อมา พ.ศ.2490 ทางวัดไผ่ล้อมขาดเจ้าอาวาส จึงชาวบ้านนิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาส ท่านพัฒนาวัดไผ่ล้อมจนเจริญรุ่งเรืองเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ หลวงพ่อพูลมรณภาพในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 เมื่อเวลา 14.55 น. ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สิริอายุได้ 92 ปี นับพรรษาได้ 67 พรรษา ปัจจุบันสังขารของท่านอยู่ที่วัดไผ่ล้อม อ.เมืองนครปฐม เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ากราบไหว้นมัสการได้ทุกวัน    


เขียนโดย :พันธุ์ทิพย์ เจ้าของรายการ August 24, 2016 05:35:04

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระชุด-จ.นครปฐม/6741519


ยินดี ส่งออกบัตรรับรอง   และ   โอนเงินผ่านเว็บดีดีพระ   พุทธคุณเหนือ คำบรรยาย พิธีใหญ่ครับ   ไม่ผ่านการล้าง ไม่ผ่านการใช้พุทธคุณเหนือคำบรรยาย ศิษย์สายตรง ไม่ควรพลาด!! หายากๆ สร้างน้อยๆ พระดี พระสวย ไว้ใจผม พันธุ์ทิพย์ครับ โอนเร็ว ส่งไว ทันใจแน่นอนครับๆๆๆๆๆๆๆๆ ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ บริหารงานโดย พันธุ์ทิพย์ ครับ ชื่อนี้ ไม่มีผิดหวัง รายการวัดใจ มีเรื่อยๆ ฝาก คลิ๊ก !!  หลังชื่อด้วยนะครับ ประวัติหลวงพ่อเต๋ เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ  ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2434 ณ บ้านสามง่าม หมู่ที่ 4 โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ บู่ นามสกุล สามงามน้อย  ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 7 คน  เป็นชาย 3 คน เป็นหญิง 4 คน  ท่านเป็นบุตรคนที่ 5                 เมื่ออายุได้ 7 ปี ลุงของท่านซึ่งบวชอยู่ที่วัดกาหลง จังหวัดสมุทรสาคร  มีชื่อว่า หลวงลุงแดง  เป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้นรูปหนึ่ง  ได้ไปเยี่ยมญาติที่บ้านสามง่าม ได้พบหลานชายจึงได้ชวนให้ไปอยู่ด้วยกันที่วัดกาหลงเพื่อจะได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือ ธรรมะ และเวทมนต์คาถา เป็นเวลา 3 ปี จนสามารถเขียนอ่านได้เป็นอย่างดี จึงได้กลับมาบ้านเกิด                 หลวงลุงแดงของหลวงพ่อเต๋ ท่านเป็นผู้สนใจในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง  ท่านเห็นว่าบ้านสามง่าม  ควรจะมีวัดวาอารามสำหรับให้พระภิกษุและชาวบ้านประกอบกิจทางพระพุทธศาสนา  จึงได้ชักชวนหลานชายไปสร้างวัดขึ้นที่บ้านดอนตูม  ห่างจากบ้านสามง่ามประมาณ 3 กิโลเมตร                 เมื่อ หลวงพ่อเต๋ คงทอง มีอายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร  ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่กับหลวงลุงแดง ร่วมจัดสร้างวัดใหม่ไปพร้อมกัน  รวมทั้งได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงลุงแดง  ประวัติหลวงลุงแดงท่านเป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีความเชี่ยวชาญพุทธาคมทั้งทางด้านเมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพันชาตรี  มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือมากมาย  อีกทั้งหลวงพ่อเต๋ มีศักดิ์เป็นหลานของท่าน  จึงได้รับถ่ายทอดวิชามาอย่างครบถ้วนโดยไม่มีการปิดบังอำพราง                 พ.ศ. 2454 ท่านมีอายุได้ 21 ปี จึงได้ทำการบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ  โดยมี พระครูอุตตรการบดี (หลวงพ่อทา)  วัดพะเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์เทศ วัดทุ่งผักกูด เป็นพระกรรมวาจาจารย์  และพระอธิการจอม วัดลำเหย เป็นพระอนุสาวนาจารย์  ได้รับฉายาทางธรรมว่าคงทอง (ภายหลังเปลี่ยนเป็น คงสุวัณโณ  แต่ชาวบ้านยังคงเรียกติดปากว่า คงทอง                 พระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อเต๋ คือหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก  เป็นพระเถระผู้ทรงเกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังมากในฐานะพระเกจิอาจารย์ที่มีพุทธาคมเข้มขลังในขณะนั้น  หลวงพ่อเต๋ได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งทางธรรม สมถกัมมัฏฐาน  ตลอดจนรับการสืบทอดด้านพุทธาคมต่าง ๆ                 ต่อมาไม่นาน หลวงลุงแดง  มรณภาพลงที่วัดกาหลง  สมุทรสาคร  ก่อนมรณภาพท่านได้ฝากวัดสามง่ามให้หลวงพ่อเต๋ดูแล                 หลวงพ่อเต๋ เริ่มออกธุดงค์ระหว่าง พ.ศ. 2455 – 2472 เป็นเวลา 17 ปี  รวมทั้งศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติม  นอกจากที่ได้ศึกษาจาก หลวงลุงแดง  และ หลวงพ่อทา หลังจากหลวงพ่อทา มรณภาพแล้ว  ท่านได้เดินทางไปขอศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง  จากนั้นออกธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ และได้ศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับพระอาจารย์อื่นทั้งพระสงฆ์และฆราวาส  อาทิ หลวงพ่อกอน วัดบ่อตะกั่ว  นอกจากนี้ท่านยังเดินทางไปเรียนกับพระอาจารย์ทางจังหวัดพิจิตร ยังมีอีกหลายรูปในขณะที่เดินธุดงค์  รวมทั้งอาจารย์ฆราวาส ท่านเป็นชาวเขมร  เคยเป็นอดีตแม่ทัพเขมร หลวงพ่อเต๋ได้พบอาจารย์ท่านนี้ที่เขาตะลุง จังหวัดกาญจนบุรี  เป็นอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ เคารพนับถือมาก  ในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ท่านจะทำการไหว้ครูเขมรมิได้ขาด                 ภายหลังท่านกลับมาพำนักที่วัดสามง่ามได้ 3 ปี  ท่านทำการสร้างวัดสามง่ามต่อจากหลวงลุงแดงที่ฝากฝังไว้ให้ท่านสร้างต่อก่อนจะมรณภาพ  สมัยก่อน อุปกรณ์การก่อสร้างต่าง ๆ หาได้ยากมาก  เรื่องไม้ที่จะนำมาสร้างวัดต้องเข้าไปเอาในป่าลึก  กว่าจะได้ไม้มาแต่ละเที่ยวยากลำบาก  การออกไปตัดไม้แต่ละเที่ยว ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 - 3 เดือน  และการนอนป่าหลวงพ่อเต๋ ก็มักจะใช้การตัดไม้ใหญ่เป็นที่พำนักอาศัย การเดินทางไปตามถิ่นต่าง ๆ ก็เพื่อประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา  ท่านจึงไม่กลัวต่อภยันตรายทั้งเสือ ช้าง อันเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย  ตลอดจนสิ่งแวดล้อมภายในป่าที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ  ตลอดเวลา 15 ปี ในการตัดไม้มาก่อสร้างปฏิสังขรณ์วัดของท่าน  บางครั้งถึงกับอดน้ำ  นับว่าเป็นความอุตสาหะมานะอันแรงกล้าอย่างประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้                 ในการพัฒนา หลวงพ่อเต๋ เป็นนักพัฒนาหาตัวจับยาก  สร้างสถานีอนามัย บ้านพักนายแพทย์และพยาบาล โรงเรียนประถมและมัธยม  สถานีตำรวจ  ถนนหนทาง  ขุดบ่อน้ำบาดาล  สร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง                 หลวงพ่อเต๋ เป็นผู้กอปรด้วยความเมตตาปรานี  ท่านจะให้ความรักความเมตตาแก่ศิษย์ทุกคนโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง  นอกจากนี้ท่านยังให้ความเมตตาต่อสัตว์เลี้ยง ได้แก่ วัว ชะนี นก สุนัข แมว ไก่ เป็นต้น  ไม่ว่านก สุนัข ไก่ และแมว ก่อนท่านจะฉันภัตตาหาร  ท่านจะต้องให้ข้าวสัตว์เหล่านี้เป็นนิจสิน                 พ.ศ. 2475 กรรมการสงฆ์จังหวัดโดย พระเทพเจติยาจารย์  วัดเสน่หา เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ได้พิจารณาแต่งตั้งให้  หลวงพ่อเต๋เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่าม                 พ.ศ. 2476 แต่งตั้งให้ท่านรักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะตำบล  มีวัดที่ขึ้นอยู่ในความปกครอง 5 วัด คือ วัดสามง่าม วัดลำลูกบัว วัดแหลมมะเกลือ วัดทุ่งสีหลง และวัดตะโกสูง                 การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเต๋ ท่านสร้างไว้หลายแบบมาตั้งแต่ครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทั้งแบบพระเนื้อดิน เนื้อผง เนื้อว่าน เหรียญรูปเหมือน พระกริ่ง รูปหล่อ เหรียญหล่อ และเครื่องรางของขลัง ตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดสามห่วง สีผึ้ง เป็นต้น  แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้                 พระเครื่องของท่านไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงาม  แต่เน้นเรื่องพุทธคุณ  เพราะท่านตั้งใจสร้างให้บูชาติดตัวเพื่อป้องกันภัยต่าง ๆ มีทั้งทางมหาอำนาจ  เมตตามหานิยม  แคล้วคลาด เนื้อพระส่วนมากเป็นแบบเนื้อดินผสมผงปนว่าน  เนื้อดินอาถรรพ์ที่นำมาจัดสร้างวัตถุมงคลได้แก่ ดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น  ผสมลงไปในพระทุกพิมพ์  ด้านหลังองค์พระจะประทับชื่อ หลวงพ่อเต๋ กดลึกลงไปในเนื้อพระ วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านมาจนทุกวันนี้คือ ตุ๊กตาทอง  หรือที่นิยมเรียกกันว่า กุมารทอง ตำราการสร้างได้จากหลวงลุงแดง  ประกอบด้วย ดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น  มาปั้นตุ๊กตาทอง (กุมารทอง) แจกชาวบ้าน  นำไปไว้เป็นเครื่องคุ้มครอง  เพราะดินดังกล่าวจะมีเทวดารักษา จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อเต๋ปั้นแล้วเอาวางนอนไว้  จึงทำการปลุกเสกให้ลุกขึ้นเองตามตำรา  ตุ๊กตาทองนี้นิยมกันมากใครได้ไปบูชามักจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเป็นที่อัศจรรย์  ทำรายได้มหาศาล สามารถขออะไรสำเร็จทุกอย่างและเป็นที่ศรัทธาอย่างสูงของประชาชน                 ในปี พ.ศ. 2505 หลวงพ่อเต๋ ท่านได้จัดสร้างพระเครื่องเนื้อดินพิธีใหญ่อีกครั้ง เพื่อฉลองอายุครบ 5 รอบ  เนื้อดินที่ใช้ยังได้นำดินทวารวดี ที่ชำรุดหักและผงว่านผสมลงไปด้วย สังเกตเนื้อองค์พระเมื่อเผาแล้ว เนื้อดินจะนุ่มเมื่อถูกเหงื่อถูกสัมผัส  ปรากฏมวลสารและว่านแลดูเก่ามาก พิมพ์ที่จัดสร้าง มีดังนี้ 1.      พระรูปเหมือนซุ้มเรือนแก้ว 2.      พระปรกโพธิ์ใหญ่ 3.      พระปรกโพธิ์เล็ก 4.      พระตรีกาย (พระสาม) 5.      พระทุ่งเศรษฐี พระเครื่องเนื้อดิน 4 พิมพ์แรก  ด้านหลังจะมียันต์อักขระนูน เรียกว่า ยันต์สามง่าม  เนื่องจากด้านหลังมีรูป ตรี เป็นสัญลักษณ์ของวัดสามง่ามนั่นเอง  ส่วนพระทุ่งเศรษฐี  ด้านหลังมียันต์และชื่อฉายา คงทอง กดประทับลึกลงไปในเนื้อ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม มรณภาพลงโดยอาการสงบ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2524 รวมสิริอายุได้ 80 ปี 6 เดือน 10 วัน พรรษาที่ 59  ปัจจุบันทางวัดยังคงบรรจุสังขารของท่านไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหารวมทั้งผู้ที่เคารพศรัทธาได้ไปกราบไหว้บูชาจนทุกวันนี้  


เขียนโดย :พันธุ์ทิพย์ เจ้าของรายการ August 24, 2016 05:34:49

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/6741545


ยินดี ส่งออกบัตรรับรอง   และ   โอนเงินผ่านเว็บดีดีพระ   พุทธคุณเหนือ คำบรรยาย พิธีใหญ่ครับ   ไม่ผ่านการล้าง ไม่ผ่านการใช้พุทธคุณเหนือคำบรรยาย ศิษย์สายตรง ไม่ควรพลาด!! หายากๆ สร้างน้อยๆ พระดี พระสวย ไว้ใจผม พันธุ์ทิพย์ครับ โอนเร็ว ส่งไว ทันใจแน่นอนครับๆๆๆๆๆๆๆๆ ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ บริหารงานโดย พันธุ์ทิพย์ ครับ ชื่อนี้ ไม่มีผิดหวัง รายการวัดใจ มีเรื่อยๆ ฝาก คลิ๊ก !!  หลังชื่อด้วยนะครับ ประวัติ "หลวงพ่อเต๋ คังคสุวัณโณ" วัดอรัญญิการาม (วัดสามง่าม) อ.ดอนตูม จ.นครปฐม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "หลวงพ่อเต๋ คงทอง" เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีความเชี่ยวชาญพุทธาคม ทั้งด้านเมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพันชาตรี  หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่ามสร้างพระเครื่อง-วัตถุมงคลไว้หลายชนิดด้วยกัน ตั้งแต่ครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พระเครื่องหลวงพ่อเต๋ มีทั้งแบบพระเนื้อดิน เนื้อผง เนื้อว่าน ที่นิยมมากคือขุนแผน หลวงพ่อเต๋ เหรียญหลวงพ่อเต๋ รุ่นแรก เหรียญรูปเหมือน พระกริ่ง รูปหล่อ เหรียญหล่อ และ เครื่องรางของขลังหลวงพ่อเต๋ ตะกรุดหลวงพ่อเต๋ ที่โด่งดังได้แก่ ตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดสามห่วง สีผึ้ง เป็นต้น แต่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ หลวงพ่อเต๋ คือ กุมารทอง "กุมารทองหลวงพ่อเต๋" จัดสร้างตามตำราที่ได้รับมาจากหลวงลุงแดง ประกอบด้วย ดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น ปั้น กุมารทอง วัดสามง่ามแจกชาวบ้าน นำไปไว้เป็นเครื่องรางคุ้มครองกุมารทองหลวงพ่อเต๋ นับเป็น กุมารทอง ที่มีราคาแพงที่สุดในประเทศไทย เนื่องจาก กุมารทองหลวงพ่อเต๋ มีประสบการณ์สูงบอกเล่นกันปากต่อปาก ถึงประสบการณ์    


เขียนโดย :พันธุ์ทิพย์ เจ้าของรายการ August 24, 2016 05:34:37

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/หลวงพ่อคูณ-ปี-2512-2539/6725486



เขียนโดย :atts29 เจ้าของรายการ August 21, 2016 00:25:51

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/6729750


ประวัติพระโดยสังเขป   พระมงคลมหาลาภ พิมพ์พระประจำวัน จัดสร้างปี ๒๔๙๙ เพื่อเป็นที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทโธจอมมุนี โดยใช้ผงโสฬสมหาพรหมเป็นส่วนผสมหลัก ประกอบพิธีพุทธาภิเษก โดยคุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ และคณาจารย์หลายท่าน เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ทั้งนี้ประกอบพิธีอีกครั้งที่วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยอง เป็นเวลา 18วัน 18คืน โดยคุณแม่บุญเรือน และคณาจารย์สายวิปัสนากรรมฐานหลายท่านเช่น หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์ลี วัดอโศการาม หลวงปู่ตื้อ พระอาจารย์วัน เป็นต้น จากนั้นนำมาบรรจุกรุที่วัดอาวุธ และเปิดกรุราวๆปี ๒๕๕๓ โดยมีเซียนพระชื่อดังร่วมเป็นสักขีพยานพิสูจน์หลายท่าน อาทิ "จ่าทวี วงษ์สิทธิ์" เจ้าของนิตยสารมรดกพระเครื่อง "วันชัย สุพรรณ" ผู้ดำเนินรายการ คุยเฟื่องเรื่องพระ ทางช่องเอ็มวี สตาร์แชนแนล และ "วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือ อุ๊ กรุงสยาม" นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพพระเครื่อง เรื่องพุทธคุณสูงด้านแคล้วคลาด โชคลาภ เมตตา สำเร็จทุกประการ เป็นที่ประจักรแก่ผู้ใช้บูชาเป็นที่บอกต่อกันปากต่อปากครับ พระของคุณแม่นั้นศักดิ์สิทธิ์จริงเป็นที่ยอมรับ สำหรับผู้ที่ศรัทธาอย่าพลาดครับกว่าผมจะหารวมได้ 7 พิมพ์นี้ยากมากครับ ชุดนี้น่าสะสม เคาะเดียวจบเลยครับ


เขียนโดย :NTpra เจ้าของรายการ August 16, 2016 13:36:14

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/6499140


ขุนแผนบ่วงสื่อเฮงขุนพันธรักษ์ราชเดช เจ้าพิธีปี๒๕๔๑ ขุนแผนบ่วงสื่อเฮงขุนพันธรักษ์ราชเดช เจ้าพิธีปี๒๕๔๑ : พระองค์ครู เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู                พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจชื่อดังของวงการตำรวจไทย เป็นคนสุดท้ายของประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานทินนาม ซึ่งพลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา ในวันที่ 5 เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2549                เมื่อครั้งที่ยังเป็นตำรวจท่านมีชื่อเสียงเป็นอันมากในการปราบโจรร้ายในภูมิภาคต่างๆ ของไทย ในภาคกลางเช่น เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสืออ้วน เสือดำ เสือไหว เสือมเหศวร ที่พัทลุง ปราบ เสือสังหรือเสือพุ่ม ที่นราธิวาส ปราบผู้ร้ายทางการเมือง ในปี พ.ศ.2481 หัวหน้าโจรชื่อ “อะเวสะดอตาเละ” จนท่านได้ฉายาจากชาวไทยมุสลิมว่า “รายอกะจิ” ซึ่งแปลว่า อัศวินพริกขี้หนู                นอจจากนี้แล้วจากผลงานที่ท่านสามารถปราบโจร เสือร้ายต่างๆ ได้มากมาย จึงได้รับฉายา ดังต่อไปนี้ นายพลตำรวจหนังเหนียวผู้จับเสือมือเปล่า นายพลตำรวจหนวดเขี้ยว ขุนพันธ์ฯ ดาบแดง (เชื่อกันว่าเป็นดาบที่ตกทอดมาจากพระยาพิชัยดาบหัก ฝักดาบมีถุงผ้าสีแดงห่อหุ้ม ตัวดาบมีความคมกล้า) รายอกะจิ (อัศวินพริกขี้หนู) ฯลฯ และจอมขมังเวท                ในยุคจตุคามรามเทพฟีเวอร์ ขุนพันธรักษ์ราชเดชมีส่วนร่วมในการจัดสร้างจตุคามรามเทพอีกหลายรุ่นด้วยกัน อาทิ รุ่นพุทธาคมขุนพันธ์เขาอ้อ พ.ศ.๒๕๔๔ รุ่นพุทธาคมเขาอ้อ พ.ศ.๒๕๔๕ รุ่นบูรณะเจดีย์ราย พ.ศ.๒๕๔๕ พระปิดตาพังพกาฬ วัดมะม่วงขาว พ.ศ.๒๕๔๖ เป็นต้น                อย่างไรก็ตาม เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๑ ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ประพิธีบวงสรวงวัตถุมงคล รุ่น “บ่วงซื่อเฮง” เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว มีความหมายว่า “เฮงหมื่นครั้ง หรือเฮงตลอดไป” ในการสร้างครั้งนั้นคุณเล็ก สุพรรณ ผู้เป็นศิษย์คนสนิทของท่านขุนพันธ์และเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างได้กราบขออนุญาตท่านขุนพันธ์ให้ทำพิธีเทวาภิเษกขึ้นที่บ้านของท่านขุนพันธ์ พิธีจัดขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืนครบถ้วนตามฤกษ์แห่งสุริยันจันทรา                นอกจากนั้นยังได้นำวัตถุมงคลชุดนี้เข้าพิธีอีกครั้งที่ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ในปี ๒๕๔๔ เมื่อพิธีเสร็จสิ้นวัตถุมงคลส่วนใหญ่ถูกส่งไปยังประเทศมาเลเซียแจกจ่ายให้ผู้เคารพศรัทธาในองค์จตุคาม เหลือบางส่วนเก็บรักษาอยู่ในไทย และได้มีการแจกจ่ายออกไปบ้างแต่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก จนกระทั่งงานพระราชทานเพลิงศพท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชจึงได้มีการนำออกเผยแพร่เกิดเป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น                วัตถุมงคล รุ่น “บ่วงซื่อเฮง” ประกอบด้วย จตุคามรามเทพ เหรียญยี่กอฮอง และขุนแผน สร้างจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก โดยท่านขุนพันธ์ได้มอบมวลสารที่ใช้ในการสร้างรุ่นปี ๒๕๓๐ เป็นส่วนผสมด้วย ด้านหลัง มีภาษาจีน อ่านว่า บ่วงซื่อเฮง (เฮงหมื่นเรื่อง) และอักษรไทย คำว่า ก - ข เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ นักพนัน และนักเสี่ยงโชค ทั้งชาวไทย จีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ ฯลฯ ต่างนิยมชื่นชอบกันอย่างมาก                ด้วยเหตุที่ชื่อรุ่นบ่วงซื่อเฮง เป็นมหามงคล แปลว่า เฮงหมื่นเรื่อง นายมนัส พันธุ์กลาง หรือเจ้าของฉายา "ฉี หมื่นเฮง" เจ้าของร้านหมื่นเฮง ร่วมกับ "ลี หมื่นเฮง" ทั้งนี้เขาจะเหมาตัดพระแท้พระใหม่หรือเก่า โดยเฉพาะเหรียญเทพเจ้าต่างๆ ถ้าเข้าตาและชอบก็จะเช่าตัดเก็บไว้บูชา ได้เช่าเก็บไว้จำนวนมากขนิดที่เรียกว่า "ล้นตู้" โดยไม่คิดว่า เหรียญยี่กอฮอง และขุนแผน รุ่น “บ่วงซื่อเฮง” จะได้รับความนิยม  


เขียนโดย :THEBOY เจ้าของรายการ June 20, 2016 10:10:43

หน้าที่ :  1